2536 Views |
จริงๆแล้ว บรรยากาศโรแมนติกน่ารักครุครินั้นสร้างง่ายมากครับ
องค์ประกอบมีอะไรบ้างน่ะหรอ…?
ก็เช่น ของขวัญ ดอกไม้ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ อาหารที่ทำให้คนรัก อะไรแบบนี้
และองค์ประกอบอีกอย่าง ที่สำคัญมากๆ แต่มักจะลืมกันบ่อยๆก็คือ “แสง” ครับ
ลองมาดูเทคนิคการให้แสง สำหรับโต๊ะรับประทานอาหาร กับ ห้องนอน ที่เราเอามาฝากกันกันดีกว่าครับ
แล้วคุณจะรู้ว่า การเปลี่ยนห้องธรรมดาให้กลายเป็นห้องสวีทโรงแรมหรู ทำได้ ง่ายนิดเดียว
ไอเดียที่ 1 แสงเทียนบนโต๊ะอาหาร
เริ่มที่แสงเทียน แสงคลาสสิคที่นิยมใช้สร้างบรรยากาศโรแมนติกตลอดกาล
ซึ่งแน่นอนว่า การจุดเทียน ต้องจุดในห้องไม่สว่างมาก เพื่อให้แสงจากเปลวเทียนโดดเด่น (ห้องควรหรี่ไฟได้)
รัศมีของแสงเทียน จะสร้าง หรือ กำหนด space เล็กๆขึ้นมา
ซึ่งภายใน space เล็กๆที่เกิดขึ้นนี้ ช่างเป็นบรรยากาศที่อบอุ่น และเป็นส่วนตัว สำหรับคนประมาณสัก 2-4 คน
ดังนั้นหากคุณมีนัดดินเนอร์กับแฟน ลองหรี่ไฟในห้องแล้วหาเทียนหอมมาจุดบนโต๊ะดูสิ
เท่านี้บรรยากาศเดิมๆ ก็กลายเป็นชั่วโมงต้องมนต์ที่มีแค่เราสองได้แล้วครับ!
แต่ถ้าทานอาหารบริเวณที่ๆมีลมแรง เช่นทะเล จุดเทียนไม่ได้
จะใช้เทียน LED แทนเทียนจริงๆก็ได้ หรือจะวางโคมไฟตั้งโต๊ะเล็กๆ น่ารักๆแบบพกพาได้ ก็ไม่เลวนะ
ไอเดียที่ 2 ติดไฟห้อยเหนือโต๊ะอาหาร
การติดไฟห้อยเหนือโต๊ะอาหาร เป็นเรื่องพื้นฐานที่นิยมทำกัน ในการออกแบบตกแต่งภายในอยู่แล้ว
แต่ถ้ามาลองพิจารณากันดีๆ โคมไฟมันก็มีหลายแบบ บางรุ่นให้แสงส่องขึ้น เช่นโคมไฟระย้า (หลอดไฟหันขึ้น) หรือถ้าโคมไฟพวกทรงฝาชี (ทรงโดม) มักจะเป็นแบบแสงส่องลง (หลอดไฟหันลง)
แน่นอนว่า เลือกทางไหนก็ไม่ผิดครับ มันใช้ได้ทั้งคู่ แต่ถ้าจะเน้นเอาบรรยากาศกันจริงๆ การติดโคมไฟแบบแสงส่องลง จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เพราะมันจะเน้น space ของแสงได้ชัดเจนกว่าแบบแสงส่องขึ้น
อ๋อ…! อย่าลืมหรี่ไฟ บริเวณโดยรอบด้วยนะ เพื่อเน้นให้โต๊ะอาหารเด่นขึ้นไปอีก
แม้อาจดูเป็นเทคนิคพื้นๆ ไม่หวือหวา แต่มันจะช่วยเติมความหวาน ความโรแมนติก ให้มื้อค่ำของคุณไปอีกนานแสนนาน
รู้อย่างนี้แล้ว บ้านใครยังไม่ได้ติดโคมไฟห้อยเหนือโต๊ะอาหาร หามาติดด่วนๆ
ไอเดียที่ 3 แสงสลัวในห้องนอน
ห้องที่สว่างมากๆ มันไม่ค่อยโรแมนติคเลยคุณว่าไหม?
ดังนั้น ถ้าคุณอยากสร้างความโรแมนติค การเปิดไฟจาก Downlight หรือ โคมไฟเพดานซาลาเปา อาจไม่ใช่คำตอบ
สิ่งที่คุณต้องการคือ แสงสลัวๆ นั่นก็เพราะ แสงสลัวๆ สร้างเสน่ห์ สร้างความลึกลับ สร้างความน่าค้นหา และปลุกจินตนาการ
ดังนั้น กิจกรรมบนเตียงจึงน่าตื่นเต้นกว่าในห้องที่ไฟไม่สว่างเกินไป
เทคนิคง่ายๆเช่นการติด “ไฟหลืบ” บริเวณหลังหัวเตียง ซึ่งเป็นการให้แสงแบบ indirect lighting
สิ่งสำคัญที่ห้ามพลาดคือ ผนังหัวเตียง ไม่ควรเป็นสีเข้มเกินไป เพื่อให้แสงสามารถสะท้อนกลับไปยังร่างกายคู่รักของคุณ
โดยสีของแสงที่เราแนะนำคือโทน Warm White หรือ Cool White แล้วแต่ชอบ
หรือถ้าใช้ไฟหลืบรุ่นที่เปลี่ยนสีได้ ลองเปิดสีโปรดของแฟนคุณดูสิ มันจะได้บรรยากาศน่ารักๆไปอีกแบบ
ไอเดียที่ 4 ติด “ไฟเบอร์ออฟติก” ในห้องนอน
ไฟเบอร์ออฟติก หรือ ใยแก้วนำแสง เป็นอีก 1 ทางเลือกในการให้แสงสว่างเพื่อการตกแต่ง (สำหรับบ้านที่มีการทำฝ้าเพดาน)
ซึ่งเมื่อติดเสร็จแล้ว จะมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ ระยิบระยับ คล้ายหมู่ดาวบนฟ้ายามค่ำคืน
จากประสบการณ์ คนมักนิยมเอาไปติดในห้องดูหนังเสียมากกว่า แต่การติดในห้องนอน มันก็ดีงามอย่างเหลือเชื่อ
โดยข้อดี 4 อย่างได้แก่
1 มันช่างโรแมนติกจริงๆนะ! ลองคิดดูสิ… นอนดูดาวด้วยกันสองต่อสองบนเตียงนุ่มๆ โดยไม่ต้องแคร์ใคร
2 สร้างประสบการณ์ใหม่ๆขณะทำกิจกรรมบนเตียง… ไฟเบอร์ออฟติกสามารถเปลี่ยนสีได้ ดังนั้น ขณะกำลังทำกิจกรรม คุณอาจเปลี่ยนสีห้อง เพื่อประสบการณ์ใหม่ๆซึ่งคนที่ไม่มีไฟเบอร์ออฟติกในห้องนอน ไม่มีวันเข้าใจ (ผู้เขียนมี 555)
3 เพิ่มความปลอดภัย ระดับความสว่างที่ได้จากไฟเบอร์ออฟติกเป็นระดับที่เพียงพอต่อการมองเห็น แสงพอดีๆไม่แสบตา การเปิดไฟเบอร์ออฟติกขณะคุณลุกไปเข้าห้องน้ำตอนกลางคืน จะทำให้คุณเดินได้อย่างปลอดภัย และไม่รบกวนคนข้างๆอีกด้วย
4 ใช้ปรับสายตาในยามเช้า สำหรับห้องนอนที่ติดม่านทึบแบบแสงไม่ทะลุเลย การเปิดม่าน หรือเปิดไฟธรรมดา จะทำให้คุณแสบตามากตอนตื่นนอน การเปิดไฟเบอร์ออฟติกก่อนจะช่วยปรับสายตาให้ค่อยๆชินกับแสง
ใครสนใจ ไฟเบอร์ออฟติก Lightinghous เรารับทำนะครับ